วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555


นายร้อยตำรวจหญิง


                 ข้อเขียนฉบับนี้จะเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่จะช่วยในการตัดสินใจสำหรับเยาวชนทั้ง ชาย และ หญิงที่กำลังจะจบการศึกษาระดับมัธยมว่าจะศึกษาต่อในทางใด  การตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต  หมายถึงอนาคตของคุณที่คุณต้องเลือกเอง
โรงเรียนนายร้อยตำรวจผลิตแต่นายร้อยผู้ชายมาเป็นเวลา ๑๐๗ ปี  ปัจจุบันมีความจำเป็นต้องใช้พนักงานสอบสวนที่เป็นผู้หญิงเพื่อความเหมาะสมในการสอบสวนและปฏิบัติงานในคดีบางประเภท  สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้วิธีเปิดรับสมัครสุภาพสตรีที่จบการศึกษาปริญญากฎหมาย นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ เข้ารับการอบรมเป็นเวลา ๖ เดือนแล้วบรรจุเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร ยศร้อยตำรวจตรีหญิง  การใช้เวลาอบรมด้านวิชาการตำรวจ  การสืบสวน สอบสวน  รวมทั้งเทคนิค ความรู้ ทักษะเฉพาะด้านที่จะต้องใช้ในหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เช่น การต่อสู้ป้องกันตัว  การใช้อาวุธปืน  การตรวจค้น จับกุม  การตรวจสถานที่เกิดเหตุ  การตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้า  บุคลิกภาพ  ความอดทน  วิชาทหาร  จริยธรรม  ฯลฯ  การใช้เวลาเพียงแค่ ๖ เดือนไม่เพียงพอ  สภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ( ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เป็นนายกสภาฯ  พล.ต.ท.อมรินทร์ อัครวงษ์ เป็นผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ )  จึงขออนุมัติเปิดหลักสูตร นายร้อยตำรวจหญิงเป็นครั้งแรกเมื่อปีการศึกษา ๒๕๕๒ จำนวน ๗๐ คน (จากบุคคลทั่วไป ๖๐ จากตำรวจหญิง ๑๐)
๑ ปีผ่านไป  ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี  โรงเรียนนายร้อยตำรวจโดยความเห็นชอบของสภาการศึกษา ฯได้เสนอขออนุมัติผลิต นายร้อยตำรวจหญิงอีกเป็นโครงการต่อเนื่อง ๒๐ ปี ๆละ ๗๐ คน (๖๐+๑๐) ต่อ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ทั้งนี้เพื่อให้มีนายตำรวจหญิงที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจไปประจำอยู่ทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ  ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ถ้าหากโครงการนี้ได้รับความเห็นชอบ ในเดือนมกราคม ๒๕๕๓ ก็คงจะมีข่าวการเปิดรับสมัคร
การเข้าเรียนในโรงเรียนเครื่องแบบไม่ใช่ของง่าย ๆ หรือของหมูๆ  ใช่ว่าเมื่อสอบเข้าไปได้แล้วก็จะเรียนจบ  มีคนที่ต้องลาออกถูกให้ออกกลางคันก็มี  อย่างนายร้อยตำรวจหญิงรุ่นแรกนี่ก็ลาออกไป ๒ คน แต่เป็นการออกในช่วงที่สมารถเรียกผู้ที่มีชื่อสำรองเข้าเรียนแทนได้ทัน  อะไรคือเหตุผลที่ต้องลาออก  ทำไมต้องออกเพราะการเข้าก็แสนจะยาก  อาจเป็นเพราะ  ๑.  หนทางที่จะไปสู่ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ๆเหมือนอย่างที่คิดไว้  ๒. มีทางเลือกอื่นที่น่าจะดีกว่า  ทั้งหมดนี้ก็คือ การขาดข้อมูล  ไม่รู้ตัวเอง  ไม่รู้สิ่งที่จะต้องไปเจอข้างหน้า และในอนาคต  ข้อมูลต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์ครับ

ข้อมูลที่ควรทราบเกี่ยวกับการสมัครเรียนนายร้อยตำรวจหญิง (ส่วนนายร้อยตำรวจชายเปิดรับสมัครทุกปีอยู่แล้ว  ข้อมูลหาได้ง่าย)
-          การเปิดรับสมัคร (ถ้ามี) จะอยู่ประมาณช่วงต้นเดือนมกราคมของแต่ละปี ( ติดตามข่าว หรือค้นหาจากWebsiteของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ)  ทั้งนี้จะต้องให้ได้รับอนุมัติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อน (ถ้าไม่อนุมัติก็ไม่เปิด)
-          รับสมัครปีละ ๗๐ คน  จากบุคคลทั่วไป ๖๐ คน จากผู้ที่เป็นข้าราชการตำรวจอยู่แล้ว ๑๐ คน
-          วุฒิ (บุคคลทั่วไป) มัธยมศึกษาปีที่ ๖ หรือเทียบเท่า  (ข้าราชการตำรวจหญิง) ต้องรับราชการตำรวจมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ปี
-          อายุ (บุคคลทั่วไป) อายุไม่เกิน ๒๑ ปี (ข้าราชการตำรวจหญิง) อายุไม่เกิน ๒๕ ปี
-          ส่วนสูง จะต้องไม่ต่ำกว่า ๑๖๐ เซนติเมตร
-          การสอบแบ่งเป็น ๒ รอบ  รอบแรก เป็นการสอบข้อเขียน  วิชาภาษาไทย  วิทยาศาสตร์  คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ  วิชาละ ๒๐๐ คะแนน  รอบที่สอง เป็นการสอบพลศึกษา  วิ่ง ๑,๐๐๐ เมตรใช้เวลาไม่เกิน ๗ นาที  ว่ายน้ำระยะทาง ๕๐ เมตรใช้เวลาไม่เกิน ๓ นาที  เมื่อผ่านทั้งสองรอบแล้วจะมีการสอบสัมภาษณ์เพื่อดูบุคลิกภาพ ทักษะ และตรวจโรค
-          ข้อควรทราบเกี่ยวกับการสอบ  คะแนนที่จะเป็นตัววัด หรือเรียงอันดับใครจะดีกว่าใคร อยู่ที่คะแนนการสอบข้อเขียน  คือต้องสอบข้อเขียนให้ได้คะแนนมากที่สุด  ส่วนพลศึกษาไม่มีคะแนนบวกให้  ถ้าสามารถทำได้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดก็ผ่านไปได้เลย  ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ถึงจะสอบข้อเขียนได้ดีเลิศอย่างไรก็ตกทันที  การสัมภาษณ์ (ดูบุคลิกลักษณะ) และการตรวจโรค ก็ไม่มีคะแนนให้  ไม่ผ่านเป็นตก  ถ้าผ่านก็ไปวัดกันที่คะแนนข้อเขียน  ฉะนั้นสำรวจตัวเองเสียก่อน  บางอย่างเป็นข้อสอบที่รู้กันอยู่แล้ว เช่น ส่วนสูงไม่ถึง  อายุเกิน  ตาเข ตาเหล่  มีลักษณะพิกลพิการจนสามารถมองเห็นได้ชัด  ตาบอดสี  มีอาการของโรคหัวใจ (ออกกำลังกายหนักๆไม่ได้)  บางอย่างตรวจดูด้วยตนเองไม่ได้ก็ไปให้แพทย์ตรวจ  ถ้าพบข้อบกพร่องและไม่สามารถแก้ไขได้ก็อย่าไปสมัครสอบให้เสียเวลา  เส้นดียังไงก็ไม่ผ่าน
-          ข้อแนะนำเกี่ยวกับพละศึกษา  สำคัญมากนะครับ  ต้องเตรียมการ หรือฝึกซ้อมไว้ก่อน  ไม่งั้นคุณลำบากแน่ๆ  ผมสงสาร  ชีวิตนักเรียนเครื่องแบบต้องใช้พละกำลังพอๆกับการใช้สมอง  นักเรียนส่วนใหญ่จะมุ่งแต่การเรียนไม่ค่อยได้เล่นกีฬา  ถ้าเป็นนักกีฬาอยู่แล้วก็คงจะสบายไประดับหนึ่ง  ถ้าคุณรักเรียนทางนี้ต้องสนใจเรื่องการออกกำลังกาย  เล่นกีฬาให้มากๆๆๆๆ  ลองวิ่งแล้วจับเวลาดู  ถ้าเวลาที่กำหนดยังวิ่งไม่ผ่านก็หนักใจ  ต้องวิ่งให้ผ่าน  วิ่งทุกวันจนเคยชิน  เพราะการใช้ชีวิตในโรงเรียนนายร้อยตำรวจทั้ง ๔ ปี จะมีการวิ่งทุกวัน  โดยเฉพาะปี ๑ การเคลื่อนที่คือการวิ่ง  ถ้าจะเดินต้องเดินเตะฉาก  รับรองเข้าไปแล้วไม่มีไขมันหน้าท้อง  เรื่องผัดหน้าทาแป้ง ทาปาก คงจะไม่มี  รองเท้าที่ใช้สำคัญมากนะครับ  ต้องให้ขนาดพอดีกับเท้าและใช้ถุงเท้าที่หนาพอสมควร  อยู่ในโรงเรียนนายร้อยใช้รองเท้าบู๊ต (บางคนเรียกไอ้โอ๊บ)  พื้นมันแข็ง หนังก็แข็ง  ถ้ารองเท้าไม่พอดี ถุงไม่พอดี วิ่งแล้วมันกัดเท้า  ผมเคยเห็นเพื่อนผมทนวิ่งทั้งๆที่รองเท้ากัด  พอหยุดวิ่งถอดรองเท้าออกมา  ผิวหนังกำพร้าไม่เหลือเลยเห็นแต่เนื้อแดงๆ  เขาทนได้ไง  ข้อแนะนำในส่วนนี้คือ ต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ และให้ถึงขั้น  มิฉะนั้นคุณลำบาก  ส่วนเรื่องว่ายน้ำ เป็นเรื่องพื้นฐานที่คุณต้องว่ายน้ำเป็น  ถ้าว่ายไม่เป็นก็จงไปหัดเสีย  มีสถานที่สอนเยอะแยะไป
-          หลักสูตรการเรียนใช้เวลา ๔ ปี เช่นเดียวกันกับนายร้อยตำรวจชาย  สถานที่รับสมัครสอบ, สถานที่ศึกษา ณ ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน จังหวัดนครปฐม  สถานที่สอบแล้วแต่จะประกาศ (เมื่อปี ๒๕๕๒ สอบที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง)
-          เมื่อจบการศึกษาได้รับพระราชทานปริญญาบัตร รป.บ.(ตร.)  (มีโครงการที่จะเข้ารับพระราชทานกระบี่เช่นเดียวกับนายร้อยตำรวจชาย) ประดับยศร้อยตำรวจตรี  ส่วนจะไปประจำที่สถานีตำรวจใดนั้นเป็นเรื่องคาดเดายาก  ตามโครงการต้องการให้ไปอยู่ทุกสถานีตำรวจในประเทศไทย  เอาเป็นว่าขอให้สอบเข้าให้ได้ และเรียนให้จบเสียก่อนดีกว่า  จะไปอยู่ที่ไหนว่ากันทีหลัง
-          วิชาข้อเขียนจะเห็นว่ามีภาษาไทย  อันนี้ก็สำคัญ  การเป็นนายตำรวจงานหลักก็คือการสอบสวน  การสอบสวนต้องใช้ภาษาไทย  ฉะนั้นภาษาไทยคุณต้องดีถูกหลักภาษา  ถูกไวยากรณ์  อย่าเพี้ยน  อย่าวิบัติ  สมัยผมสอบมีการเรียงความ ย่อความภาษาไทย  ตอนแรกผมงงว่าทำไมการศึกษาระดับนี้ยังมีเรื่องเหล่านี้อยู่  พอออกมาทำงานแล้วจึงรู้  การสอบสวนก็คือการเรียงความ  การสรุปสำนวนการสอบสวนก็คือการย่อความ  สำคัญนะครับ
เมื่อเข้าไปเรียนได้แล้วจะมีเรื่องที่น่าสนใจ ตื่นเต้นตลอด  โรงเรียนนายร้อยตำรวจหลักสูตรการศึกษาทันสมัย  สภามหาวิทยาลัยให้การรับรอง  ที่นี่คุณจะพบหลายสิ่งหลายอย่างที่ในมหาวิทยาลัยทั่วๆไปไม่มี เช่น
-          เป็นการเรียนประจำที่มีการฝึกระเบียบวินัยแบบทหาร  รวมทั้งการเข้าสังคม  มารยาทต่าง ๆ เช่นการรับประทานอาหาร การดื่ม  การเดินทาง  การแต่งกาย  การพูดในโอกาสต่างๆ  การพูดต่อหน้าสาธารณะ  หลักสูตรการเป็นผู้นำ
-          วิชากฎหมายต่างๆ  วิชาการตำรวจ (ระเบียบการต่างๆ ทั้งเกี่ยวกับคดี ไม่เกี่ยวกับคดี) การชันสูตศพ  นิติเวชวิทยา (ดูการผ่าศพพิสูจน์)  วิชาการสืบสวน  สอบสวน  การทำสำนวน  ฯลฯ 
-          มีการเรียนวิชาการในห้องเรียน  ห้องLabภาษาอังกฤษ  การออกฝึกปฏิบัติในพื้นที่จริง  การจู่โจม  การจับกุม  การปิดล้อม ตรวจค้น  การฝึกวิชาทหาร  การเล่นกีฬา ฯลฯ
-          สมัยก่อนกลัวกันมากเรื่องการ รับน้องใหม่”  เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาปรับปรุงแล้ว  ถ้าจะมีการออกกำลังกันบ้างก็เป็นไปในลักษณะ วิทยาศาสตร์การกีฬา”  การกลิ้งไปกับพื้นถนน  หรือคลานคืบหน้าอกไถพื้นจนหนังกำพร้าถลอกไม่มีแล้ว (การฝึกกำลังใจอย่างรุ่นผม  พาไปตอนกลางคืนดึกๆ  ปล่อยทีละคนให้เดินฝ่าความมืดเข้าไปในโกดังเก็บศพ  แล้วให้เซ็นชื่อบนกระดาษวางบนฝาโลงท่ามกลางกลิ่นเหม็นเน่า  มีตะเกียงรั้วแสงริบหรี่วางบนโลงศพ ๑ ดวง  ไม่ทราบว่ายังมีอยู่หรือเปล่า)
-          หลักสูตรการต่อสู้ป้องกันตัวเข้มข้น  มือเปล่าสู้กับมือเปล่า  มือเปล่าสู้กับอาวุธ  ทุกคนต้องผ่าน  ต้องสอบ  ยูโด  เทกวนโด้  มวยไทย  ไอคีโด้
-          การใช้อาวุธปืนในลักษณะต่างๆ  ทั้งปืนสั้น  ปืนยาว
-          การขับรถ และความรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์
-          โดดร่ม (ตามความสมัครใจ  คือจะไม่โดดก็ได้)
-          การไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวในชนบทเพื่อสัมผัสปัญหา
-          การฝึกงานตามสถานีตำรวจ
-          ฯลฯ
การฝึกของนักเรียนนายร้อยหญิง